ยินดีต้อนรับ welcome To blog

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แท็บแล็ต ไม่ควรมาแทนหนังสือ



"แท็บเล็ต" ไม่ควรมาแทนหนังสือ

 
ในช่วงเวลาที่โครงการแจกแท็บเล็ต ให้กับนักเรียนชั้น ป.1 ทั่วประเทศกำลังเดินหน้า หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่างก็แสดงความกังวลผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากโครงการนี้ นักการศึกษา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันว่า ไม่ควรนำแท็บเล็ตมาใช้แทนหนังสือเรียน เพราะจะทำให้เด็กขาดทักษะด้านการเขียน และขาดปฎิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เนื่องจากเด็กจะจดจ้องอยู่แต่หน้าจอแท็บเล็ตเพียงอย่างเดียว

ส่วน เนื้อหาภายในแท็บเล็ต นักการศึกษาท่านนี้มองว่า จะต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์ของโครงการ และควรตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำกับดูแลโดยเฉพาะ เพราะเป็นเรื่องใหม่ของแวดวงการศึกษาไทย ซึ่งอาจเกิดปัญหารายวัน และทำให้โครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จ

หลังจากทดลองใช้แท็บเล็ตมาก ว่า 1เดือน  ยอมรับว่าแท็บเล็ตทำให้เด็กๆ รู้ตื่นตัวในการเรียนมากขึ้น เนื่องจากสีสันและภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอ ดึงดูดความสนใจได้ดีกว่าตัวหนังสือ

แต่กังวลผลกระทบด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น เช่น ปัญหาสายตาจากแสงสว่างบนหน้าจอ / การปวดใบหูเพราะถูกเฮด โฟนบีบ และอาการเจ็บต้นคอจากการก้มมองหน้าจอเป็นเวลานาน พร้อมแนะว่าจำเป็นต้องอบรมให้ความรู้เรื่องการใช้แท็บเล็ต แก่ครูทั่วประเทศ เพื่อรองรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น

โครงการ One Tablet PC per Child เป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการส่งเสริมให้เยาวชนไทย มีความพร้อมทั้งด้านวิชาการ และเทคโนโลยี โดยในปีการศึกษา 2555 นักเรียนชั้น ป.1 ทั่วประเทศกว่า 8แสน 6หมื่นคนจะได้รับแท็บเล็ตคนละ 1เครื่อง รวมทั้งยังมีแนวทางที่จะแจกแท็บเล็ต ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทั่วประเทศอีกระดับชั้นหนึ่งด้วย เพื่อให้เยาวชนไทยก้าวขึ้นสู่ระดับแนวหน้าในประชาคมอาเซียน


สำหรับประเทศไทย ได้มีการจัดเสวนาเรื่อง แท็บเล็ต: มุมมองกว้าง สร้างปัญญาเด็กไทย?” จากการเสวนาดังกล่าวได้มีข้อเสนอจาก 5 กลุ่มหลักคือ
1.กลุ่มเด็ก เห็นว่า เด็กมัธยมศึกษาก็อยากใช้บ้าง เด็กประถมศึกษาตอนต้นยังเขียนไม่คล่องอ่านไม่เก่งจะใช้ให้เกิดประโยชน์ไม่เต็มที่นัก
2.กลุ่มผู้ปกครอง เห็นด้วยกับการให้เด็กได้ใช้แท็บเล็ต เพราะทำให้เด็กเท่าทันเทคโนโลยี แต่ก็ยังห่วงใยเรื่องความรับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การดูแลรักษาของเด็ก และอาจเป็นอันตรายต่อเด็กถ้ามีคนต้องการขโมย จะสร้างวินัยให้แก่เด็กอย่างไร และจะกำกับดูแลอย่างไรให้เด็กใช้แท็บเล็ตอย่างเหมาะสม
 3.กลุ่มครู คิดว่าควรใช้แท็บเล็ตควบคู่ไปกับห้องสมุด ครูก็ต้องทำหน้าที่เป็น Facilitator ที่ดี คอยควบคุมให้เด็กใช้อย่างมีประโยชน์ มีการอบรมครูให้เท่าทันเทคโนโลยี และมีการใช้ e-learning ผ่านแท็บเล็ต
 4.กลุ่มเครือข่ายทำงานด้านเด็ก มองว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับเด็กยากจนด้วย ห่วงว่าเด็กจะมีปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะสายตา เด็กยังไม่พร้อมที่จะใช้ เด็กอาจทำหายได้ การใช้แท็บเล็ตนานๆจะทำให้เด็กขาดปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่
5.ลุ่มนักจิตวิทยาเด็ก เห็นว่า การใช้แท็บเล็ตทำให้เด็กขาดวิชาชีวิตซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ ลูก การใช้คอมพิวเตอร์มากๆ ทำให้เกิดปัญหาสมาธิสั้น อารมณ์อ่อนไหว การพัฒนากล้ามเนื้อตาและมือมีปัญหา ภาษาพูดช้าลง ขาดปฏิภาณไหวพริบในการแก้ปัญหา และ เกิดโรคโหยหาตามมา (อาการติด) อย่างไรก็ตามเห็นว่าหากจะให้เด็ก ป. 1 ใช้แท็บเล็ตจริงก็ควรแทรกเนื้อหารู้เท่าทันสื่อ ได้แก่ Media Literacy, Media Watch, Media Regulation, Media Research และ Social Network
ที่มา.. VoiceTV
ที่มา  :  http://milthailand.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=4&id=3&Itemid=163&lang=th


2 ความคิดเห็น:

  1. ฉันไม่รู้ ”คุณ”คือใคร?
    แต่อยากบอกไว้ “ฉันชอบคุณgclub

    ตอบลบ
  2. ...น่ารักมั้ยไม่รู้ แต่รอให้รักอยู่รู้มั้ย pussy888

    ตอบลบ