การหล่อหลอมเด็กยุคใหม่ ที่ครอบครัวต้อง ปรับร.ร.ต้องเปลี่ยนในศตวรรษที่
21
ในระยะหลังนักการศึกษาทั่วโลกได้พูดถึงการเลี้ยงดูลูกในศตวรรษที่
21 ที่พ่อแม่ต้องปรับตัว
ในบางประเทศมีโรงเรียนสอนพ่อแม่ มีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยแก้ปัญหาและให้คำแนะนำความเป็นไปของครอบครัว
เนื่องจากการเลี้ยงดูเด็กในโลกยุคใหม่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่งเรื่องนี้อาจยังใหม่สำหรับคนไทย
เพราะหากย้อนกลับไปดูระบบการศึกษาไทยที่เป็นแหล่งหล่อหลอมคนร่วมกับครอบครัว ดูเหมือนว่าจะสวนทางกับทิศทางของโลก สิ่ง ที่ต้องเปลี่ยนคือการปรับกระบวนการเรียนการสอนรวมถึงการเลี้ยงดูเพื่อให้
เด็กพร้อมสำหรับโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและความเปลี่ยนแปลงทั้ง เศรษฐกิจ
สังคมที่รายล้อมไปด้วยสิ่งใหม่และความเจริญของเทคโนโลยี อันจะส่งผลกระทบถึงตัวมนุษย์อย่างรวดเร็ว
ปรับโหมดการสอนรู้สู่ ศต.ที่ 21
ใน
การสัมมนาหัวข้อการพัฒนาผู้นำในเด็ก จัดโดย หน่วยพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเด็ก Newgen บริษัทที่ปรึกษา เอพีเอ็ม กรุ๊ป
"เมก้า ศรีเสธิ" ผู้เชี่ยวชาญด้าน Parent Coach กล่าวถึงการเป็นพ่อแม่ของเด็กในศตวรรษที่ 21 ว่า
ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเด็กเติบโตขึ้นท่ามกลางเทคโนโลยี จึงเป็นความท้าทายของพ่อแม่ในยุคนี้ที่จะสร้างศักยภาพให้ตนเอง
เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ
"พ่อแม่ยุคนี้จะต้องรู้จุดอ่อน
จุดแข็งของตนเอง และมีทัศนคติที่ชัดเจนต่อทิศทางในการเลี้ยงดูลูก ซึ่งการโค้ชพ่อแม่จะช่วยผลักดันและค้นหาวิธีที่สร้างสรรค์และเหมาะสมสำหรับ
ครอบครัวที่นำไปสู่การปฏิบัติที่ดี และปัญหาอีกด้านคือวัฒนธรรมของคนไทยที่ผู้ใหญ่จะเป็นผู้สอนเด็กทุกอย่างและ
ควบคุมพฤติกรรมมากเกินไปทำให้ความเป็นผู้นำถูกจำกัดไว้ ขั้นแรกต้องเปลี่ยนแปลงความคิดก่อนว่าเด็กทุกคนสามารถสอนได้"
"ความท้าทายที่ว่าคือ
ความพร้อมเรื่องภาษา ครอบครัวไทยต้องฝึกภาษาให้ลูกและตัวเองด้วย ต่อมาคือการเรียนของลูกที่เปลี่ยนไป
ทั้งเวลาการเปิด-ปิดภาคเรียน หลักสูตรและเนื้อหาการเรียน
สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ที่เปิดกว้างขึ้น เรื่องที่สามคือการสอนให้เด็กมีใจเปิดกว้างและเป็นมิตร
เคารพในความหลากหลายและพร้อมจะเป็นครอบครัวเดียวกัน"
"เรื่องต่อมา คือ เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปอาจกระทบชีวิตครอบครัวทำให้มีเวลาอยู่ร่วมกันน้อยลง
ทำอย่างไรให้ความสัมพันธ์ยังอยู่คงเดิม และเรื่องสุดท้ายโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งอาจเป็นโรคใหม่
ๆ ที่คนไทยไม่เคยเป็นหรือไม่เคยเจออาการอย่างนี้มาก่อน ทั้งหมดล้วนมีคำตอบเดียวกันคือ
ครอบครัวต้องพร้อมจะเรียนรู้เพื่อก้าวสู่สังคมที่กำลังจะเปลี่ยนไป"
แนะ ร.ร.สอนเน้นการอยู่ร่วมกัน การ
เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันถือเป็นหัวใจสำคัญของการศึกษายุคปัจจุบัน เพราะสังคมแห่งการเรียนรู้ในยุคสมัยนี้
ผู้เรียนต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะอยู่บนพื้นฐานของความเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นในสังคมให้มีความสุข
"เสาหลักการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน
ประกอบด้วย 3 หัวใจสำคัญที่สามารถฝึกให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์
สูงสุดได้ คือ 1.เรียนรู้ที่จะอยู่กับตนเอง 2.เรียนรู้ที่จะอยู่กับผู้อื่น และ 3.เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ
ทั้งหมดจะเป็นหัวใจสำคัญที่การศึกษาไทยยุคปัจจุบันควรนำมาประยุกต์ใช้ในการ เรียนการสอน
ที่ปัจจุบันสอนเน้นเฉพาะภาคทฤษฎีในหนังสือ แต่ยังไม่เน้นภาคปฏิบัติและสอนทักษะการใช้ชีวิตเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยน
แปลงของโลกเท่าที่ควร" การเปลี่ยนแปลงปรับเปลี่ยนทั้งหมดจะเห็นเป็น
จริงได้ อาจต้องอาศัยระยะเวลาในการขับเคลื่อน แต่หัวใจสำคัญของความสำเร็จคือการมองเห็นปัญหาและจับมือทำงานร่วมกัน
โดยเริ่มได้ตั้งแต่ในครอบครัว ชุมชน สถาบันการศึกษา ไปจนถึงผู้มีอำนาจในการกำหนดนโยบายในภาพกว้างรวมถึงสังคม
ที่มา..ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ที่มา..ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น